วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แมลง....สุดยอดอาหารในอนาคต




แมลง....สุดยอดอาหารในอนาคต


ผมเป็นคนอีสาน คุ้นเคยการกินแมลงมาตั้งแต่เกิด ก็เลยสนับสนุนว่าการกินแมลงเป็นอาหารไม่ได้มีอะไรที่ทำให้น่ารังเกลียดหรือขยะแขยง เนื่องจากว่าเราไม่ได้กินทุกชนิดตามทีเป็นข่าว วันนี้ผมหาข้อมูลของแมลงที่นำมาทำเป็นอาหารให้ลองอ่านกัน เผื่อว่าท่านที่ไม่เคยกินอาจจะรู้สึกอยากลองดูบ้างครับ ผมนำข้อมูลนี้มาจากเว็บ http://web.ku.ac.th/agri/insectt/inc3.htm บางชนิด ก็มีภาพประกอบให้ท่านได้รู้จัก ไปอ่านกันเลย
ในประเทศไทยชาวบ้านในแถบชนบทนิยมนำแมลงมากินเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
การที่ทราบว่าแมลงชนิดใดกินได้หรือไม่นั้น เป็นความรู้สืบทอดต่อ ๆ กันมา แมลงที่กินได้บางชนิดพบมีอยู่เฉพาะที่ จึงรู้จักกินกันเฉพาะท้องถิ่นนั้น ๆ แต่บางชนิดมีอยู่ทั่ว ๆ ไปในประเทศจึงรู้จักกินกันอย่างกว้างขวางในหมู่คนไทย และบางครั้งสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด แมลงกินได้ที่พบในประเทศไทยเท่าที่สำรวจได้มีมากกว่า 50 ชนิด แต่ในที่นี้จะเขียนถึงแมลงกินได้เพียงบางชนิดที่เป็นที่รู้จักนิยมกินกัน
ในการนำแมลงมาประกอบเป็นอาหารนั้น ถ้าเป็นแมลงตัวโตควรเด็ดเอาส่วนแข็งออกก่อน เช่น หัว ขา และปีกและสิ่งที่สำคัญคือต้องไม่จับแมลงในแหล่งที่มีการพ่นสารฆ่าแมลงมากินเป็นอันขาด แมลงที่กินได้มีดังนี้
แมลงกินูน (แมลงอินูน)
แมลงปีกแข็ง ส่วนใหญ่มีสีน้ำตาลขนาดต่าง ๆ แล้วแต่ชนิดบางชนิดมีสีเขียว เรียกว่ากินูนเขียว กลางวันหลบซ่อนอยู่ในดินหรือใต้กองใบไม้ กลางคืนบินออกมากินใบอ่อนพืช จับได้โดยมือจับหรือใช้กระบอกไม้ไผ่จ่อที่ตัวแมลง มันจะปล่อยตัวตกลงมา นำไป คั่ว ทอด นึ่ง หรือแกงรับประทานได้




ด้วงแรด (ด้วงมะพร้าว)
กินยอดอ่อนมะพร้าว บางครั้งบินมาเล่นแสงไฟ ประกอบอาหารได้ โดยนำมา ปิ้ง คั่ว ทอด หรือแกง
แมลงทับ
แมลงปีกแข็ง มีสีน้ำเงินสวยเป็นเงางาม พบบนต้นไม้หลายชนิด เช่น มะขามเทศ กระถินณรงค์ รับประทานได้ โดยนำมา ปิ้ง คั่ว ทอดหรือยัดไส้หมู สับและนึ่งกว่างซางแมลงปีกแข็งขนาดใหญ่ ตัวสีน้ำตาล หัวสีดำ ตัวผู้มีเขายาวยื่นออกมา 5 เขา สวยงาม พบกินยอดไผ่ซางทางภาคเหนือ ประกอบอาหาร โดยนำมา ปิ้ง คั่ว ทอด หรือสับทำเป็นลาบ
กว่างชน (กว่างโซ้ง กว่างกิ กว่างอีลุ่ม)




ด้วงปีกแข็ง พบทั่วไป กินอ้อย ตัวผู้มีเขาเรียกว่า กว่างโซ้ง หรือ กว่างกิ ตัวเมียไม่มีเขา เรียกว่าอีลุ่ม ชาวบ้านทางภาคเหนือนิยมนำเอาตัวผู้มาชนต่อสู้กัน ในปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ในกรุงเทพฯ โดยเด็กชอบซื้อไปเลี้ยงดูเล่น หรือใหห้ต่อสู้กัน นำมาประกอบอาหารได้เช่นเดียวกับกว่างซาง




แมลงตับเต่า (ด้วงดิ่ง)แมลงปีกแข็ง ตัวสีดำเรียบเป็นมัน ขอบปีกมีสีน้ำตาลอ่อนเป็นทาง อยู่ในน้ำตามบ่อ หนอง บึง มักอยู่นิ่ง ๆ บนผิวน้ำเอาหัวดิ่งลงชอบบินมาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน รับประมาณได้ โดยนำมา คั่ว ทอด นึ่ง หรือแกงแมลงเหนี่ยงอยู่ในน้ำ และมีลักษณะเหมือนแมลงตับเต่า แต่ที่ขอบปีกไม่มีทางสีน้ำตาลอ่อน และมืออวัยวะคล้ายลูกศรอยู่กลางอกทางด้านท้องนำมาประกอบอาหารได้เช่นเดียวกับแมลงตับเต่าแมลงข้าวสารแมลงปีกแข็งขนาดเล็กอยู่ในน้ำจับได้โดยใช้สวิงช้อน ชอบบินมาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน นำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น คั่ว ทอด แกง หมก หรือตำเป็นน้ำพริก

แมลงกุดจี่ (แมลงขี้ครอก, ด้วงขี้ควาย)

แมลงปีกแข็ง อยู่ตามกองมูลสัตว์ หรือในดินใต้กองมูลสัตว์ ถ้ามีแมลงนี้อยู่จะมีรอยขุยอยู่ที่กองมูลสัตว์ จับได้โดยใช้ไม้คุ้ย หรือขุดลงไปในดิน เมื่อได้ตัวแล้วต้องใส่ถังตั้งทิ้งไว้หนึ่งคืน เพื่อให้แมลงถ่ายสิ่งสกปรกออกแล้วนำไปแช่น้ำล้างให้สะอาด รับประทานได้เช่นเดียวกับแมลงกินูน

จิ้งโกร่ง (จิโปม)ขุดรูอยู่ในดินตามคันนา ทุ่งหญ้าในเวลากลางวัน จับโดยใช้จอบขุดกลางคืนบินออกมาเล่นไฟ รับประทานได้โดยนำมา คั่ว ทอด ชุบแป้งทอด เสียบไม้ย่าง หรือนึ่งจิ้งหรีด (จี้หล่อ)มีแหล่งอาศัย อุปนิสัย การดำรงชีวิต และนำมาประกอบอาหารได้เช่นเดียวกับจิ้งโกร่ง

แมลงกระชอนขุดรูอยู่ในดิน มีขาหน้าใหญ่เป็นหนามแข็งใช้สำหรับขุดดิน บางครั้งบินมาเล่นแสงไฟ รับประทานได้เช่นเดียวกับจิ้งโกร่งตั๊กแตนปาทังก้าเป็นศัตรูสำคัญของพืชหลายชนิดใช้เป็นอาหารโดยนำมาคั่ว ปิ้งทำทอดมันและที่นิยมมากคือนำมาทอดกรอบตั๊กแตนปาทังก้าทอดกรอบสามารถหาซื้อรับประทานได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ โดยมีพ่อค้าบรรทุกตั๊กแตนเป็น ๆ มาขายที่ตลาดคลองเตยทุกเช้าในช่วงระยะที่ไม่มีการพ่นสารปราบตั๊กแตนตั๊กแตนเล็ก (ตั๊กแตนข้าว)ตั๊กแตนขนาดเล็กพบทั่ว ๆ ไป กินใบข้าว อ้อย และหญ้า ประกอบอาหารได้โดยนำมา คั่ว นึ่ง หรือทอด


แมลงเม่า

เป็นปลวกที่มีปีกบินออกจากรังเพื่อผสมพันธุ์จับได้โดยใช้ถุงตาข่ายครอบไว้ที่ปากรังหรือจอมปลวกขณะที่มันบินออก หรือใช้แสงไฟล่อ โดยตั้งภาชนะใส่น้ำไว้ใต้หลอดไฟ แมลงเม่าเมื่อตกลงไปในน้ำแล้วไม่สามารถบินขึ้นมาได้ ในการรับประทานนำมาคั่วและใส่เกลือเล็กน้อย

แมลงมัน

มดขนาดใหญ่ สีน้ำตาลแดง มีปีกตัวยาวประมาณ 1 นิ้ว ชอบบินมาเล่นแสงไฟ รับประทานได้เช่นเดียวกับแมลงเม่า

มดแดง, มดนาง, มดเป้ง ไข่มดแดง

มดแดงทำรังบนต้นไม้ โดยห่อใบให้ติดกัน ภายในรังมดแดงมีมดที่มีลักษณะแตกต่างกันหลายแบบที่เห็นทั่ว ๆ ไป มีตัวสีแดง คือ "มดงาน" ตัวอ่อนและดักแด้ของมดงานมีขนาดเล็กสีขาว ชาวบ้านเรียกว่า "ไข่มดแดง" ส่วนราชินีมดแดง ตัวโตสีเขียว มีปีกเรียกว่า"มดนาง" ตัวอ่อนและดักแด้ของมดนางมีขนาดใหญ่สีขาว เรียกว่า "มดเป้ง"

มดแดง

และมดนาง ใช้ผสมยำอื่น ๆ แทนมะนาว เพราะมีรสเปรี้ยวจากกรดฟอร์มิก ส่วนมดเป้งและไข่มดแดง นำมาหมก ยำผึ้งนอกจากน้ำผึ้งแล้ว ตัวอ่อนผึ้งยังนำมารับประทานได้ โดยนำรังผึ้งที่มีตัวอ่อนไปปิ้ง หรือเคี้ยวรับประทานสด เฉพาะตัวอ่อนนำไปคั่ว ทอด หรือแกงได้หนอนไผ่ (ตัวแน่, รถไฟ)หนอนผีเสื้อกินเยื่อไผ่ในกระบอกไม้ไผ่ พบทางภาคเหนือในช่วงฤดูฝน รับประทานได้โดยนำมาคั่ว หรือทอด เป็นที่นิยมมาก หาซื้อหนอนไผ่นี้ได้ตามท้องตลาด หรือสามารถสั่งซื้อหนอนไผ่ทอดกรอบได้ตามภัตตาคารบางแห่งในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ดักแด้ไหมดักแด้ไหม เมื่อต้นสาวเส้นไหมออกแล้ว ตัวดักแด้ที่อยู่ข้างในปลอกหุ้ม นำมารับประทานได้โดยนำมานึ่ง คั่ว ทอด แกง หรือป่นใส่น้ำพริกตัวจรวด (เครื่องบิน)ผีเสื้อกลางคืนลำตัวอ้วน ปลายท้องแหลม ลักษณะคล้ายจรวดหรือเครื่องบิน มีหลายชนิด ชอบบินมาเล่นแสงไฟ นิยมรับประทานโดยเด็ดปีกแชาน้ำล้างขนออกให้หมด แล้วนำมาคั่ว ทอด หรือปิ้งแมลงโป้งเป้ง (แมงงำ)ตัวอ่อนของแมลงปอ อยู่ในน้ำตามสระ หนอง บึง จับโดยใช้สวิงซ้อน นำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น คั่ว ทอด หมก แกงจักจั่น, เรไรจักจั่น พบตามต้นไม้ ตัวผู้มีอวัยวะทำเสียงดังได้ เรไร มีลักษณะเหมือนจักจั่น แต่มีขนาดใหญ่กว่า ทั้งจักจั่นและเรไร รับประทานได้โดย คั่ว ทอด ปิ้ง ทำลาบ แกง หรือตำเป็นน้ำพริก
แมลงดานาอยู่ในน้ำตามนาข้าว หนอง บึง ชอบบินมาเล่นแสงไฟ จับโดยใช้แสงไฟล่อ โดยเฉพาะไฟสีน้ำเงิน ตัวผู้มีกลิ่นฉุนนำมาตำเป็นน้ำพริก น้ำแจ่ว หรือดองน้ำปลารับประทาน ตัวเมียไม่มีกลิ่นรับประทานได้โดยนำมาปิ้ง ทอด หรือยัดไส้หมูสับ แล้วนึ่ง หรือทอดแมลงดาสวน (แมลงก้าน, มวนตะพาบ, มวนหลังไข่)ตัวมีขนาดเล็กกว่าแมลงดามาก อยู่ในน้ำ ตัวเมียวางไข่เป็นกลุ่มติดแน่นอยู่บนหลังตัวผู้ ตัวผู้ดูแลไข่จนฟักออกเป็นตัว แมลงชนิดนี้นำมาประกอบอาหารได้ เช่น คั่ว ทอด หรือตำเป็นน้ำพริกมวนแมงป่องน้ำ (แมลงคันโซ่)รูปร่างคล้ายแมงป่องแซ่ มีหางยาว อยู่ในน้ำ รับประทานได้โดยนำมา คั่ว ทอด นึ่ง ทำลาบ หรือตำเป็นน้ำพริกคุณค่าทางโภชนาการ จากการศึกษาคุณค่าทางอาหารของแมลงในประเทศไทย (2526) พบว่า แมลงตับเต่า, ตั๊กแตนเล็ก และแมลงดานา มีปริมาณโปรตีนและไขมันใกล้เคียงกับโปรตีนและไขมัน จากเนื้อสัตว์ ซึ่งแสดงในตารางที่ 1 ดังนี้ตารางที่ 1 แสดงคุณค่าอาหารของแมลงและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ต่อน้ำหนัก100 กรัมชนิด โปรตีน(กรัม) ไขมัน (กรัม)แมลงตับเต่า 21.0 7.1 ตั๊กแตนเล็ก 20.6 6.1 แมลงดานา 19.8 8.3 ปลาดุก 23.0 2.4 เนื้อไก่ 20.2 12.6 เนื้อวัว 18.8 14.6 เนื้อหมู 14.1 35.0 ไข่ไก่ 12.7 11.9 ที่มา : กองโภชนาการ กรมอนามัย (2521) และโภชนาการสาร ปีที่ 17(1) 15-12 พ.ศ. 2526จะเห็นได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบปริมาณโปรตีนในแมลงกับเนื้อสัตว์บางชนิดแล้วไม่แตกต่างกันมากนักในขณะที่เนื้อสัตว์มีราคาแพงขึ้นทุกวันในปัจจุบันแมลงอาจเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญได้ในอนาคตเนื่องจากหาเองได้ง่าย และสามารถเพิ่มปริมาณได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว แมลงสะอาดกว่าสัตว์ชนิดอื่น และในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าคนไทยทั่ว ๆ ไปไม่เฉพาะแต่มีอยู่ตามชนบทเท่านั้นนิยมรับประทานแมลงมากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีพลโลกเพิ่มขึ้นและอาหารเริ่มขาดแคลนหากมนุษย์จะตัดความคิดรังเกียจขยะแขยงแมลงออกไปเสีย แมลงจะเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน และธาตุต่าง ๆ ให้กับมนุษย์ได้อย่างดี ซึ่งอาจช่วยลดปัญหาการขาดแคลนอาหารไปได้บ้าง ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น สัตว์หลายชนิดก็กินแมลงเป็นอาหาร แม้แต่สัตว์เลี้ยง เช่น นก ปลา ไก่ เป็นต้น ปัจจุบันได้มีการผลิตแมลงเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่นตัวหนอนแดง และดักแด้ไหม ใช้เป็นอาหารปลาทำให้ปลาสมบูรณ์แข็งแรง มีสีสันสวยงามข้อมูลจาก http://web.ku.ac.th/agri/insectt/inc3.htm
โดยส่วนมากคนไทยนิยมกินแมลง เนื่องมาจากวัฒนธรรมการบริโภคและภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดต่อ ๆ กันมาตามสภาพเศรษฐกิจ เพื่อหาแหล่งอาหารมี่มาทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีราคาแพง อย่างเช่นคนภาคอีสานที่นิยมกินแมลง เพราะหาได้ง่าย การเลือกกินแมลงอย่างปลอดภัย 1. ควรเป็นแมลงที่รู้จักและนิยมนำมารับประทานได้ และควรเลือกแมลงที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติที่ไม่มีการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช 2. ควรเป็นแมลงที่จับขณะยังมีชีวิตอยู่ และนำมาปรุงอาหารทันที 3. ควรหลีกเลี่ยงแมลงที่เป็นพาหะของโรคต่าง ๆ เช่น แมลงวัน แมลงสาบ 4. ควรหลีกเลี่ยงแมลงที่มีสีสันสดใส ซึ่งส่วนใหญ่จะมีพิษมากกว่าแมลงที่ไม่มีสี 5. ควรปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้สุกด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การคั่ว การทอด การย่าง การปิ้ง การต้ม หรือวิธีอื่น ๆ 6. ควรจะเด็ดปีก ขา ขน หรือ หนามแข็ง ๆ ของแมลง ก่อนนำมารับประทาน ข้อแนะนำ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงการกินแมลงทอด เพราะอาจทำให้ได้รับสารฮีสตามีนปริมาณมากส่งผลให้อาการแพ้กำเริบและหากรับประทานมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ ถึงแม้แมลงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ดังนั้นการที่จะเลือกกินแมลงเป็นอาหารก็ควรที่จะเลือกกินอย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อจะได้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพ..

ไม่มีความคิดเห็น: